วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การนับครั้งสังคายนาของพม่า

         ได้กล่าวมาแล้วว่า  พม่าไม่รับรองสังคายนาครั้งแรกในลังกา  คงรับรองเฉพาะสังคายนาครั้งที่  ๒  ของลังกาว่าเป็นครั้งที่  ๔  ต่อจากนั้นก็นับสังคายนาครั้งที่  ๕  และที่  ๖  ซึ่งทำในประเทศพม่า
                สังคายนาครั้งที่  ๑  ในพม่า  หรือที่พม่านับว่าเป็นครั้งที่  ๕  ต่อจากครั้งจารึกลงในใบลานของลังกา  สังคายนาครั้งนี้มีการจารึกพระไตรปิฎกลงในแผ่นหินอ่อน  ๗๒๙  แผ่น  ณ  เมืองมันดเล  โดยการอุปถัมภ์ของพระเจ้ามินดง  พ.ศ. ๒๔๑๔ (ค.ศ. ๑๘๗๑) พระมหาเถระ ๓ รูป คือ พระชาคราภิวังสะ  พระนรินทาภิธชะ  และพระสุมังคลสามี  ได้ผลัดเปลี่ยนกันเป็นประธานโดยลำดับ  มีพระสงฆ์และพระอาจารย์ผู้แตกฉานในพระปริยัติธรรมร่วมประชุม  ๒,๔๐๐  ท่าน  ทำอยู่  ๕  เดือนจึงแล้วเสร็จ
                สังคายนาครั้งที่  ๒  ในพม่า  หรือที่พม่านับว่าเป็นครั้งที่  ๖  ที่เรียกว่า  ฉัฏฐสังคายนา  เริ่มทำเมื่อวันที่  ๑๗  พฤษภาคม  พ.ศ.  ๒๔๙๗  ถึงวันที่  ๒๔  พฤษภาคม  พ.ศ.  ๒๔๙๙  ในการนี้ได้จัดให้มีการฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษด้วย เนื่องจากพม่านับปีพุทธศักราชเร็วกว่าไทย ๑ ปี  จึงครบ  ๒๕  พุทธศตวรรษในปี  พ.ศ.  ๒๔๙๙  ตามปีปฏิทินของไทย

                พม่าทำสังคายนาครั้งนี้  มุ่งพิมพ์พระไตรปิฎก  อรรถกถา  และคำแปลเป็นภาษาพม่าโดยลำดับมีการโฆษณาและเชิญชวนพุทธศาสนิกชนหลายประเทศไปร่วมพิธีด้วย  โดยเฉพาะประเทศที่นับถือเถรวาท  คือ  พม่า  ลังกา  ไทย  ลาว  เขมร  ทั้งห้าประเทศนี้ถือว่าสำคัญสำหรับการสังคายนาครั้งนี้มาก  เพราะใช้พระไตรปิฎกภาษาบาลีอย่างเดียวกัน  จึงได้จัดให้มีการประชุม  ซึ่งประมุขหรือผู้แทนประมุขของทั้งห้าประเทศนี้เป็นหัวหน้า  ได้มีการก่อสร้างคูหาจำลองทำด้วยคอนกรีต  จุคนได้หลายพันคน  มีที่นั่งสำหรับพระสงฆ์ไม่น้อยกว่า ๒,๕๐๐ ที่  บริเวณที่ก่อสร้างประมาณ  ๒๐๐ ไร่เศษ  เมื่อเสร็จแล้วได้แจกจ่ายพระไตรปิฎกฉบับอักษรพม่าไปในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น