ได้กล่าวมาแล้วว่า พม่าไม่รับรองสังคายนาครั้งแรกในลังกา คงรับรองเฉพาะสังคายนาครั้งที่ ๒ ของลังกาว่าเป็นครั้งที่ ๔ ต่อจากนั้นก็นับสังคายนาครั้งที่ ๕ และที่ ๖ ซึ่งทำในประเทศพม่า
สังคายนาครั้งที่ ๑ ในพม่า หรือที่พม่านับว่าเป็นครั้งที่ ๕ ต่อจากครั้งจารึกลงในใบลานของลังกา สังคายนาครั้งนี้มีการจารึกพระไตรปิฎกลงในแผ่นหินอ่อน ๗๒๙ แผ่น ณ เมืองมันดเล โดยการอุปถัมภ์ของพระเจ้ามินดง พ.ศ. ๒๔๑๔ (ค.ศ. ๑๘๗๑) พระมหาเถระ ๓ รูป คือ พระชาคราภิวังสะ พระนรินทาภิธชะ และพระสุมังคลสามี ได้ผลัดเปลี่ยนกันเป็นประธานโดยลำดับ มีพระสงฆ์และพระอาจารย์ผู้แตกฉานในพระปริยัติธรรมร่วมประชุม ๒,๔๐๐ ท่าน ทำอยู่ ๕ เดือนจึงแล้วเสร็จ
สังคายนาครั้งที่ ๒ ในพม่า หรือที่พม่านับว่าเป็นครั้งที่ ๖ ที่เรียกว่า ฉัฏฐสังคายนา เริ่มทำเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ถึงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ในการนี้ได้จัดให้มีการฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษด้วย เนื่องจากพม่านับปีพุทธศักราชเร็วกว่าไทย ๑ ปี จึงครบ ๒๕ พุทธศตวรรษในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ตามปีปฏิทินของไทย
พม่าทำสังคายนาครั้งนี้ มุ่งพิมพ์พระไตรปิฎก อรรถกถา และคำแปลเป็นภาษาพม่าโดยลำดับมีการโฆษณาและเชิญชวนพุทธศาสนิกชนหลายประเทศไปร่วมพิธีด้วย โดยเฉพาะประเทศที่นับถือเถรวาท คือ พม่า ลังกา ไทย ลาว เขมร ทั้งห้าประเทศนี้ถือว่าสำคัญสำหรับการสังคายนาครั้งนี้มาก เพราะใช้พระไตรปิฎกภาษาบาลีอย่างเดียวกัน จึงได้จัดให้มีการประชุม ซึ่งประมุขหรือผู้แทนประมุขของทั้งห้าประเทศนี้เป็นหัวหน้า ได้มีการก่อสร้างคูหาจำลองทำด้วยคอนกรีต จุคนได้หลายพันคน มีที่นั่งสำหรับพระสงฆ์ไม่น้อยกว่า ๒,๕๐๐ ที่ บริเวณที่ก่อสร้างประมาณ ๒๐๐ ไร่เศษ เมื่อเสร็จแล้วได้แจกจ่ายพระไตรปิฎกฉบับอักษรพม่าไปในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น